ทุกครั้งที่ดูข่าวเศรษฐกิจ เราต่างได้ยินคำว่า “GDP” ซึ่งมักถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือวัดสุขภาพของระบบเศรษฐกิจ หลายคนอาจรู้ว่า GDP เกี่ยวข้องกับการผลิตของประเทศ แต่ไม่กี่คนที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า gdp คืออะไร และ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ที่ทำให้มันมีอิทธิพลต่อตลาดทุนอย่าง SET Index จนกระทั่งเกิดความผันผวน
ความหมายของ GDP และความสำคัญของมัน
GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศนั่นเอง เป็นตัวแทนของมูลค่ารวมทั้งหมดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่สร้างสรรค์ขึ้นภายในดินแดนประเทศใดประเทศหนึ่งในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิตโดยประชาชนหรือบริษัทต่างชาติที่ตั้งฐานมากอบมากที่นี่
สาระสำคัญของ GDP คือให้เห็นภาพรวมว่าเศรษฐกิจของประเทศเรากำลังเติบโตหรือหดตัว การเปลี่ยนแปลงของตัวเลขนี้บ่งบอกถึงทิศทางของความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา จึงถูกนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจของผู้บัญชาการนโยบายการเงิน เช่นเดียวกับนักลงทุนที่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง
องค์ประกอบของ GDP ประกอบด้วยอะไรบ้าง
เมื่อว่าถึง องค์ประกอบของ GDP นั้นสามารถหักออกจากสูตรคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า GDP = C + G + I + NX ซึ่งแต่ละตัวแปรมีความหมายทั้งประการ
การบริโภคของภาคเอกชน (C - Consumption)
ส่วนแรกของสมการคือการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วไป เมื่อประชาชนออกไปซื้อสินค้า รับบริการ ตั้งแต่ของใช้ประจำวันไปจนถึงสิ่งของใหญ่โตเช่นบ้านและรถยนต์ ทั้งหมดนี้นับรวมอยู่ในส่วน C ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อน GDP เพราะหากคนยอมใช้จ่ายมาก เศรษฐกิจก็จะเติบโต แต่ถ้าความกังวลหรือความไม่มั่นใจปกครองใจคน การบริโภคก็จะหดตัว
การใช้จ่ายของภาครัฐ (G - Government Spending)
รัฐบาลยังเป็นผู้บริโภคที่สำคัญเช่นกัน การซื้อวัสดุอุปกรณ์ การสร้างสาธารณูปโภค การจ่ายเงินเดือนข้าราชการ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งหมดนี้ล้วนเข้ามาในการคำนวณ G ในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ ภาครัฐมักจะขยายการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
การลงทุนภาคเอกชน (I - Investment)
เมื่อบริษัทตัดสินใจซื้อเครื่องจักร สร้างโรงงาน หรือขยายกิจการของตัวเอง การใช้เงินเหล่านั้นก็นับเข้าไปในส่วน I การลงทุนแบบนี้สำคัญเพราะว่ามันเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตของเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสการจ้างงานใหม่ ๆ ขึ้นมา
การส่งออกสุทธิ (NX - Net Exports)
ส่วนสุดท้ายของสูตรคือความแตกต่างระหว่างสินค้าที่ประเทศส่งออกไปกับสินค้าที่นำเข้ามา หากประเทศส่งออกมากกว่านำเข้า NX จะเป็นตัวเลขบวก ซึ่งส่งผลดีต่อ GDP แต่ถ้ากลับกัน GDP ก็จะได้รับผลกระทบ
ความแตกต่างระหว่าง Nominal GDP และ Real GDP
การวัด GDP นั้นมีสองแบบ ซึ่งให้ข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป
Nominal GDP คือการนับดูเหมือนว่า “ตัวเลขขึ้นสุดท้ายที่ออกมาจากตลาด” โดยไม่ได้ปรับให้คิดเรื่องอัตราเงินเฟ้อเลย ดังนั้นหากราคาสินค้าขึ้นตัวแต่ปริมาณที่ผลิตไม่เปลี่ยน Nominal GDP ก็ยังจะดูเหมือนว่าโตขึ้น ข้อมูลนี้ใช้ได้ดีเวลาเปรียบเทียบช่วงสั้น ๆ ภายในปีเดียว
ส่วน Real GDP นั้นไปเกินกว่า นั่นคือได้มีการปรับแก้ให้คิดถึงผลของเงินเฟ้อแล้ว ด้วยการใช้ปีฐาน (base year) เป็นเกณฑ์ ทำให้เราสามารถเห็นการเติบโตที่แท้จริงของเศรษฐกิจได้ เพราะว่ามันวัดปริมาณการผลิตจริง ๆ ไม่ใช่แค่อัตราเงินเฟ้อ Real GDP คือข้อมูลที่นักเศรษฐศาสตร์ชอบใช้เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพเศรษฐกิจระหว่างปีต่าง ๆ
ตัวอย่างง่าย ๆ คือ หากเมื่อปีที่แล้ว GDP (Nominal) เท่ากับ 100 และปีนี้ถึง 110 นั่นดูเหมือนว่าโต 10% แต่ถ้าเงินเฟ้อสูง 8% ในหนึ่งปี Real GDP ก็จะโตแค่ 2% จริง ๆ นั่นคือเหตุผลว่าทำไม Real GDP ถึงสำคัญกว่า
GDP มีความสำคัญต่อตลาดหลักทรัพย์อย่างไร
ถ้าเอ่ยความสัมพันธ์ระหว่าง GDP กับตลาดหลักทรัพย์ (SET) นั้นไม่ได้อยู่ห่างไกลกัน บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้และเก็บกำไรขึ้นมาภายในประเทศเรา ซึ่งพอใจกับส่วน I (การลงทุน) และส่วน C (การบริโภค) ของสูตร GDP
ความสัมพันธ์นี้ทำให้เมื่อมีการออกประกาศตัวเลข GDP ประเทศใหม่ ๆ ตลาดหลักทรัพย์ก็กระเทือน บ่อยครั้งที่ตัวเลข GDP ดีเกินคาด หุ้นก็วิ่งขึ้น หรือหาก GDP ผิดหวัง หุ้นก็ตกลง
สรุป
GDP คืออะไร และ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว มันเป็นเพียงตัวเลขที่เมื่อหนึ่งปี ประเทศเรากำลังผลิตมูลค่าไปเท่าไหร่ แล้วทิศทางไปไหน ถึงแม้ว่า GDP จะไม่ใช่กระจกที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำ 100% แต่มันก็ถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญเพียงพอสำหรับการวางแผนนโยบายและการตัดสินใจลงทุนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
หากต้องการวิเคราะห์เศรษฐกิจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การศึกษา GDP ควรไปเคียงข้างกับข้อมูลตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราการจ้างงาน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพื่อได้ภาพเศรษฐกิจที่ชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
Lihat Asli
Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Apa itu Produk Domestik Bruto (GDP) dan apa saja komponennya
ทุกครั้งที่ดูข่าวเศรษฐกิจ เราต่างได้ยินคำว่า “GDP” ซึ่งมักถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือวัดสุขภาพของระบบเศรษฐกิจ หลายคนอาจรู้ว่า GDP เกี่ยวข้องกับการผลิตของประเทศ แต่ไม่กี่คนที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า gdp คืออะไร และ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ที่ทำให้มันมีอิทธิพลต่อตลาดทุนอย่าง SET Index จนกระทั่งเกิดความผันผวน
ความหมายของ GDP และความสำคัญของมัน
GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product หรือผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศนั่นเอง เป็นตัวแทนของมูลค่ารวมทั้งหมดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่สร้างสรรค์ขึ้นภายในดินแดนประเทศใดประเทศหนึ่งในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิตโดยประชาชนหรือบริษัทต่างชาติที่ตั้งฐานมากอบมากที่นี่
สาระสำคัญของ GDP คือให้เห็นภาพรวมว่าเศรษฐกิจของประเทศเรากำลังเติบโตหรือหดตัว การเปลี่ยนแปลงของตัวเลขนี้บ่งบอกถึงทิศทางของความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจในแต่ละช่วงเวลา จึงถูกนำมาใช้ประกอบการตัดสินใจของผู้บัญชาการนโยบายการเงิน เช่นเดียวกับนักลงทุนที่จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง
องค์ประกอบของ GDP ประกอบด้วยอะไรบ้าง
เมื่อว่าถึง องค์ประกอบของ GDP นั้นสามารถหักออกจากสูตรคณิตศาสตร์ที่เรียกว่า GDP = C + G + I + NX ซึ่งแต่ละตัวแปรมีความหมายทั้งประการ
การบริโภคของภาคเอกชน (C - Consumption)
ส่วนแรกของสมการคือการใช้จ่ายของผู้บริโภคทั่วไป เมื่อประชาชนออกไปซื้อสินค้า รับบริการ ตั้งแต่ของใช้ประจำวันไปจนถึงสิ่งของใหญ่โตเช่นบ้านและรถยนต์ ทั้งหมดนี้นับรวมอยู่ในส่วน C ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีบทบาทสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อน GDP เพราะหากคนยอมใช้จ่ายมาก เศรษฐกิจก็จะเติบโต แต่ถ้าความกังวลหรือความไม่มั่นใจปกครองใจคน การบริโภคก็จะหดตัว
การใช้จ่ายของภาครัฐ (G - Government Spending)
รัฐบาลยังเป็นผู้บริโภคที่สำคัญเช่นกัน การซื้อวัสดุอุปกรณ์ การสร้างสาธารณูปโภค การจ่ายเงินเดือนข้าราชการ และการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งหมดนี้ล้วนเข้ามาในการคำนวณ G ในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ ภาครัฐมักจะขยายการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
การลงทุนภาคเอกชน (I - Investment)
เมื่อบริษัทตัดสินใจซื้อเครื่องจักร สร้างโรงงาน หรือขยายกิจการของตัวเอง การใช้เงินเหล่านั้นก็นับเข้าไปในส่วน I การลงทุนแบบนี้สำคัญเพราะว่ามันเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตของเศรษฐกิจ และสร้างโอกาสการจ้างงานใหม่ ๆ ขึ้นมา
การส่งออกสุทธิ (NX - Net Exports)
ส่วนสุดท้ายของสูตรคือความแตกต่างระหว่างสินค้าที่ประเทศส่งออกไปกับสินค้าที่นำเข้ามา หากประเทศส่งออกมากกว่านำเข้า NX จะเป็นตัวเลขบวก ซึ่งส่งผลดีต่อ GDP แต่ถ้ากลับกัน GDP ก็จะได้รับผลกระทบ
ความแตกต่างระหว่าง Nominal GDP และ Real GDP
การวัด GDP นั้นมีสองแบบ ซึ่งให้ข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป
Nominal GDP คือการนับดูเหมือนว่า “ตัวเลขขึ้นสุดท้ายที่ออกมาจากตลาด” โดยไม่ได้ปรับให้คิดเรื่องอัตราเงินเฟ้อเลย ดังนั้นหากราคาสินค้าขึ้นตัวแต่ปริมาณที่ผลิตไม่เปลี่ยน Nominal GDP ก็ยังจะดูเหมือนว่าโตขึ้น ข้อมูลนี้ใช้ได้ดีเวลาเปรียบเทียบช่วงสั้น ๆ ภายในปีเดียว
ส่วน Real GDP นั้นไปเกินกว่า นั่นคือได้มีการปรับแก้ให้คิดถึงผลของเงินเฟ้อแล้ว ด้วยการใช้ปีฐาน (base year) เป็นเกณฑ์ ทำให้เราสามารถเห็นการเติบโตที่แท้จริงของเศรษฐกิจได้ เพราะว่ามันวัดปริมาณการผลิตจริง ๆ ไม่ใช่แค่อัตราเงินเฟ้อ Real GDP คือข้อมูลที่นักเศรษฐศาสตร์ชอบใช้เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพเศรษฐกิจระหว่างปีต่าง ๆ
ตัวอย่างง่าย ๆ คือ หากเมื่อปีที่แล้ว GDP (Nominal) เท่ากับ 100 และปีนี้ถึง 110 นั่นดูเหมือนว่าโต 10% แต่ถ้าเงินเฟ้อสูง 8% ในหนึ่งปี Real GDP ก็จะโตแค่ 2% จริง ๆ นั่นคือเหตุผลว่าทำไม Real GDP ถึงสำคัญกว่า
GDP มีความสำคัญต่อตลาดหลักทรัพย์อย่างไร
ถ้าเอ่ยความสัมพันธ์ระหว่าง GDP กับตลาดหลักทรัพย์ (SET) นั้นไม่ได้อยู่ห่างไกลกัน บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก่อให้เกิดรายได้และเก็บกำไรขึ้นมาภายในประเทศเรา ซึ่งพอใจกับส่วน I (การลงทุน) และส่วน C (การบริโภค) ของสูตร GDP
เมื่อเศรษฐกิจเติบโต ธุรกิจเหล่านั้นก็มีแนวโน้มที่จะมีรายได้มากขึ้น ผลกำไรเพิ่มเติม และจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นมากขึ้น ส่งผลให้ราคาหุ้นขยับขึ้น ทางกลับกันเมื่อ GDP ตกต่ำ นักลงทุนจึงออกหนีไปหลัก เพราะคาดว่ากำไรของบริษัทจะหดตัว ราคาหุ้นจึงลดลงตามไปด้วย
ความสัมพันธ์นี้ทำให้เมื่อมีการออกประกาศตัวเลข GDP ประเทศใหม่ ๆ ตลาดหลักทรัพย์ก็กระเทือน บ่อยครั้งที่ตัวเลข GDP ดีเกินคาด หุ้นก็วิ่งขึ้น หรือหาก GDP ผิดหวัง หุ้นก็ตกลง
สรุป
GDP คืออะไร และ มีองค์ประกอบอะไรบ้าง ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว มันเป็นเพียงตัวเลขที่เมื่อหนึ่งปี ประเทศเรากำลังผลิตมูลค่าไปเท่าไหร่ แล้วทิศทางไปไหน ถึงแม้ว่า GDP จะไม่ใช่กระจกที่สะท้อนภาพเศรษฐกิจได้อย่างแม่นยำ 100% แต่มันก็ถือว่าเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญเพียงพอสำหรับการวางแผนนโยบายและการตัดสินใจลงทุนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
หากต้องการวิเคราะห์เศรษฐกิจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การศึกษา GDP ควรไปเคียงข้างกับข้อมูลตัวชี้วัดอื่น ๆ เช่น อัตราเงินเฟ้อ อัตราการจ้างงาน และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค เพื่อได้ภาพเศรษฐกิจที่ชัดเจนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น