Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Perlu memahami pola grafik lilin untuk menjadi trader Forex yang lebih mahir
เมื่อคุณตัดสินใจเข้าสู่วงการเทรดสกุลเงิน ความสามารถในการอ่านตัวเทียนจึงกลายมาเป็นทักษะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หลายเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จจนเรียนได้ว่ากำไรเบ้ากว่าคนอื่นมักจะพึ่งพาการวิเคราะห์ รูปแบบกราฟแท่งเทียน เพียงอย่างเดียว เพราะเครื่องมือนี้มีอยู่ในทุกแพลตฟอร์มเทรดออนไลน์ และการเรียนรู้มันจึงจำเป็นต่อการพัฒนาตัวเอง
แท่งเทียนคือสิ่งที่เทรดเดอร์ต้องเข้าใจก่อนเริ่มต้น
ตัวแท่งเทียนแสดงถึงสภาวะตลาดในช่วงเวลาที่กำหนด มันบอกเราว่าผู้ซื้อและผู้ขายแข่งขันกันอย่างไร โดยแสดงราคาเปิดและราคาปิดของช่วงเวลานั้น รวมถึงราคาสูงสุดและต่ำสุด ไม่ว่าคุณจะทำงานกับกรอบเวลา 15 นาที 1 ชั่วโมง หรือ 1 สัปดาห์ ความหมายของแท่งเทียนยังคงไม่เปลี่ยน
สีของแท่งเทียนบ่งบอกทิศทางของการเคลื่อนไหวราคา:
ทำไมเทรดเดอร์ส่วนใหญ่จึงเลือกใช้รูปแบบกราฟแท่งเทียน
บอกเล่าอารมณ์ของตลาดได้ชัดเจน แสดงถึงแรงซื้อ-แรงขายจริง ซึ่งแตกต่างจากกราฟเส้นที่ซ่อนรายละเอียดมากมาย
เข้าใจและใช้ได้ง่าย แพทเทิร์นที่เห็นได้ชัดเจนช่วยให้เทรดเดอร์พยากรณ์ทิศทางของแนวโน้มได้ดีกว่า ถ้าผสมกับเครื่องมืออื่น เช่น เส้นแนวโน้มหรือระดับรับ-ต้าน ก็จะแม่นยำยิ่งขึ้น
ได้ผลจริงมานานกว่า 200 ปี ชาวญี่ปุ่นใช้เครื่องมือนี้ตั้งแต่สมัยค้าข้าว และบทบาทของมันในตลาดการค้าพิสูจน์ได้ว่าเป็นวิธีการที่เชื่อถือได้
ก่อนอื่น ต้องจำรูปแบบพื้นฐานของแท่งเทียนก่อน
หลังจากเข้าใจพื้นฐาน ลองเรียนรู้รูปแบบสามแบบนี้:
Doji - เมื่อผู้ซื้อและผู้ขายสู้กันเสมอ
นี่คือแท่งเทียนที่ราคาเปิดและปิดอยู่ที่ระดับเดียวกัน แสดงว่าไม่มีฝ่ายไหนชนะเด็ดขาด Doji มีหลายแบบ:
Doji ที่ตามหลังแท่งเทียนขาขึ้นยาว = ผู้ซื้ออ่อนแรง อาจเปลี่ยนทิศทาง แต่รอแท่งถัดไปเพื่อยืนยันก่อน Doji ที่ตามหลังแท่งเทียนขาลงยาว = ผู้ขายอ่อนแรง อาจเปลี่ยนทิศทาง แต่รอแท่งถัดไปเพื่อยืนยันก่อน
Marubozu - แท่งเทียนที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่
ไม่มีไส้เทียนเลย เพราะราคาเปิด = ต่ำสุด และราคาปิด = สูงสุด (ในกรณีขาขึ้น) หรือ ราคาเปิด = สูงสุด และราคาปิด = ต่ำสุด (ในกรณีขาลง)
นี่เป็นสัญญาณของแรงซื้อหรือแรงขายที่ครอบงำตลาด โดยไม่มีความลังเล
Spinning Top - ความไม่แน่นอนระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย
ตัวแท่งเทียนเล็ก แต่ไส้เทียนยาวทั้งสองข้าง บ่งบอกว่ามีการปะทะกันหนักแต่ไม่มีผู้ชนะที่ชัดเจน
ถ้าเกิดในแนวโน้มขาขึ้น = ผู้ซื้ออ่อนแรง สัญญาณกลับตัว ถ้าเกิดในแนวโน้มขาลง = ผู้ขายอ่อนแรง สัญญาณกลับตัว
เมื่อรู้จักแบบเดียว ลองมาดูแบบสองและสามแท่งเทียน
แบบสองแท่งเทียน: Engulfing Pattern
Bullish Engulfing - แท่งเทียนดำตามด้วยแท่งเทียนขาวขนาดใหญ่ที่เกดจริงแท่งดำ แสดงผู้ซื้อคุมตลาด สัญญาณกลับเป็นขาขึ้น
Bearish Engulfing - แท่งเทียนขาวตามด้วยแท่งเทียนดำขนาดใหญ่ที่เกดจริงแท่งขาว แสดงผู้ขายคุมตลาด สัญญาณกลับเป็นขาลง
แบบสองแท่งเทียน: Tweezer Pattern
ลักษณะคล้ายคีม ด้วยไส้เทียนของสองแท่งเทียนยาวเท่ากัน
Tweezer Tops - ไส้เทียนสูงเท่ากันหลังจากแนวโน้มขาขึ้น = สัญญาณกลับเป็นขาลง Tweezer Bottoms - ไส้เทียนต่ำเท่ากันหลังจากแนวโน้มขาลง = สัญญาณกลับเป็นขาขึ้น
แบบสามแท่งเทียน: รูปแบบที่ซับซ้อนและเชื่อถือได้มากขึ้น
Morning Star & Evening Star
Morning Star - สัญญาณการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้น ประกอบด้วย:
Evening Star - สัญญาณการกลับตัวจากขาขึ้นเป็นขาลง ประกอบด้วย:
Three White Soldiers & Three Black Crows
Three White Soldiers - สัญญาณขาขึ้น ทำจากสามแท่งเทียนขาขึ้นต่อเนื่อง โดยแต่ละแท่งปิดสูงกว่าแท่งก่อนหน้า
Three Black Crows - สัญญาณขาลง ทำจากสามแท่งเทียนขาลงต่อเนื่อง โดยแต่ละแท่งปิดต่ำกว่าแท่งก่อนหน้า
Three Inside Up & Three Inside Down
Three Inside Up - ตามด้วยแท่งเทียนที่สามที่ปิดเหนือจุดสูงสุดของแท่งแรก บ่งบอกผู้ซื้อเหนือกว่า
Three Inside Down - ตามด้วยแท่งเทียนที่สามที่ปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดของแท่งแรก บ่งบอกผู้ขายเหนือกว่า
ข้อควรจำเมื่อใช้รูปแบบกราฟแท่งเทียน
การอ่าน รูปแบบกราฟแท่งเทียน ให้เป็นมืออาชีพนั้นต้องการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ทุกแพทเทิร์นเป็นเพียงสัญญาณเท่านั้น ไม่ใช่การรับประกัน หากอัตราความสำเร็จต่ำกว่า 50% ให้รอบคอบมากขึ้น และศึกษาสถานการณ์ตลาด ปัจจัยพื้นฐาน และสภาวะการซื้อขายโดยรวม
สำคัญที่สุด: ความเสี่ยงมีในทุกการเทรด อย่าลืมจัดการความเสี่ยงให้ดี