Halaman ini mungkin berisi konten pihak ketiga, yang disediakan untuk tujuan informasi saja (bukan pernyataan/jaminan) dan tidak boleh dianggap sebagai dukungan terhadap pandangannya oleh Gate, atau sebagai nasihat keuangan atau profesional. Lihat Penafian untuk detailnya.
Kehidupan yang cukup: Filosofi ekonomi yang membantu kita bertahan (dan lebih menikmati)
เศรษฐกิจพอเพียงคืออะไรจริงๆ
หากคุณเคยได้ยินคำว่า “เศรษฐกิจพอเพียง” แต่ยังงงว่ามันหมายถึงอะไร มันก็เหมือนการบอกให้เราใช้ชีวิตแบบ “มีเหตุมีผล” นั่นเอง ไม่ต้องตามหมวดหมู่ใคร ไม่ต้องเอาเปรียบใคร แค่หาวิธีดำเนินชีวิตให้ตนเองพอเพียง
กรอบแนวคิด เศรษฐกิจพอเพียง มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ประชาชนทุกชั้นชั้น ตั้งแต่ระดับครัวเรือน ชุมชน จนถึงองค์กรภาครัฐ สามารถพึ่งพาตนเองได้ด้วยความพอเพียง ไม่ต้องสร้างความยากลำบากให้ผู้อื่น และที่สำคัญที่สุด คือ มีความเสถียรในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก
นิยามของ “พอเพียง” ในที่นี้หมายถึง การมีความสมดุล มีการคำนึงถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และการเตรียมพร้อมตัวเองให้มีระบบป้องกันที่ดี โดยต้องอาศัยความรู้ ความเห็นอกเห็นใจ และความระมัดระวังในการวางแผนการดำเนินชีวิต
หัวใจสำคัญ: 3 ห่วง และ 2 เงื่อนไข
ความลึกซึ้งของ เศรษฐกิจพอเพียง อยู่ที่โครงสร้างเฉพาะของมัน ที่ประกอบไปด้วย 3 ห่วง และ 2 เงื่อนไข ซึ่งเป็นพื้นฐานของการตัดสินใจและการดำเนินชีวิต
3 ห่วงคือ
ห่วงแรก: ความพอประมาณ - คิดถึงสิ่งนี้ว่าเป็นการสร้างสมดุลในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหารายได้หรือใช้จ่าย การทำงานสุจริตโดยไม่บีดเบียนผู้อื่น และการใช้เงินตามความเป็นจริงของตนเอง ไม่วิ่งตามความคาดหวังของสังคม
ห่วงที่สอง: ความมีเหตุผล - ก่อนทำสิ่งใดๆ ให้หยุดและคิด “ทำไมฉันต้องทำอย่างนี้” “ฉันพร้อมหรือยัง” “จะเกิดอะไรขึ้นจากการตัดสินใจนี้” ไม่ควรทำตามอารมณ์หรือแฟชั่นที่ผ่านมา
ห่วงที่สาม: ระบบภูมิคุ้มกัน - เตรียมตัวสำหรับสิ่งที่ไม่คาดคิด เช่น การมีเงินสำรองสำหรับยามฉุกเฉิน การมีความสามารถหลายๆ ด้าน เพื่อให้สามารถปรับตัวได้เมื่อเศรษฐกิจมีการเปลี่ยนแปลง
2 เงื่อนไขคือ
เงื่อนไขแรก: ความรู้ - ไม่ว่าจะเป็นความรู้ทางวิชาการ ความสัมผัสจากประสบการณ์ หรือการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญ ความรู้จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น
เงื่อนไขที่สอง: คุณธรรม - ทำสิ่งต่างๆ ด้วยความซื่อสัตย์ ขยัน และความรับผิดชอบ เพราะว่าความมั่นคงที่แท้จริงมาจากการไม่โกหก ไม่ทำให้ใครเสียหาย
ที่มาของแนวคิดและเหตุใดจึงมีความสำคัญ
เศรษฐกิจพอเพียงถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2517 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหลวงรัชกาลที่ 9 ประทานพระบรมราโชวาทแก่นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยเน้นความสำคัญของการพัฒนาประเทศผ่านการสร้างพื้นฐาน “พอมี พอกิน พอใช้”
ในช่วงนั้น ประเทศไทยกำลังติดหนี้จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน โดยหวังเปลี่ยนประเทศเป็นอุตสาหกรรม แต่สิ่งนี้ได้นำมาซึ่งความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้น พระองค์ท่านจึงชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักทางกลาง
หนึ่งปีก่อนวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” ปี 2540 พระองค์ท่านได้ย้ำเตือนผ่านพระราชดำรัสที่ว่า การเป็นเสือไม่สำคัญ สำคัญคือการมีเศรษฐกิจแบบพอมีพอกิน ซึ่งหมายถึงการอุ้มชูตัวเองได้ เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจเกิดขึ้น คนต่างประเทศก็เห็นว่าปรัชญานี้ตรงกับ “เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ของสหประชาชาติ
ในปี 2549 สหประชาชาติได้ยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ว่าเป็น “Developer King” และมอบรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ให้พระองค์ท่าน
นำปรัชญานี้มาใช้ในชีวิตจริงได้อย่างไร
ในด้านการเกษตร
การเกษตรแบบผสมผสาน - ยิ่งกว่าการปลูกพืชสายเดียว ให้ลองทำหลายอย่างในครัวเรือนเดียว เช่น ปลูกข้าว ปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ขุดสระเก็บน้ำ เมื่อพืชชนิดหนึ่งขาดผลผลิต พืชอื่นยังคงมีรายได้
เกษตรทฤษฎีใหม่ - แนวคิดที่แบ่งที่ดินออกเป็นส่วนต่างๆ โดยใช้วิชาการมาช่วยคำนวณ มีสามระดับ:
ในด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม
ในชีวิตประจำวันของคนธรรมดา
สรุป
เศรษฐกิจพอเพียง ไม่ใช่อุตรสาหกรรมแบบเก่าไปแล้ว หรือการปฏิเสธการพัฒนา มันคือปรัชญาแห่งการบริหารจัดการชีวิตด้วยภูมิคุณหรรม ความรู้ และความเห็นอกเห็นใจ เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ได้อย่างมั่นคง ยั่งยืน และสามารถเผชิญกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก
ไม่ว่าจะทำในสายอาชีพไหน ตั้งแต่เกษตรกร ผู้ประกอบการ คนทำงาน หรือนักลงทุน ปรัชญานี้สามารถปรับใช้ได้ทั่ว หากเราเพียงยึดหลักทางกลาง รู้จักพอเพียง มีเหตุผล และสร้างความมั่นคงให้กับตัวเองและคนในชุมชน ที่จริงแล้ว เศรษฐกิจพอเพียงในชีวิตประจำวัน ก็คือศิลปะของการอยู่รอดได้อย่างดี ให้เต็มไปด้วยความสุข