Yield na investimento: a compreensão essencial para investidores que desejam aumentar os retornos

ทำไม Yield จึงเป็นตัวชี้วัดที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม

เมื่อพูดถึงการลงทุน หลายคนมักสับสนระหว่างแนวคิดต่าง ๆ เกี่ยวกับผลตอบแทน อย่างไรก็ตาม หนึ่งในตัวชี้วัดที่มีความสำคัญสูงสุดในการประเมินสินทรัพย์คือ “Yield” ซึ่งบอกเราว่าการลงทุนของเรากำลังทำงานได้เพียงใด โดยแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อปี

Yield ไม่ได้บ่งบอกเพียงแค่กำไรที่เราจะได้รับ แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปรียบเทียบสินทรัพย์ที่แตกต่างกัน เช่น หุ้น พันธบัตร และที่ดิน ช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

Yield คืออะไร และวิธีคำนวณอย่างถูกต้อง

ความหมายของ Yield

Yield หรืออัตราผลตอบแทน เป็นการวัดรายได้ที่ได้รับจากการลงทุนในสินทรัพย์ใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ้น bond yield หรืออสังหาริมทรัพย์ เมื่อเราลงทุนในสินทรัพย์ Yield จะแสดงให้เห็นว่าเงินลงทุนของเราสร้างรายได้ได้มากเพียงใด เทียบกับมูลค่าเบื้องต้นของการลงทุน

การคำนวณ Yield ใช้สูตรพื้นฐาน:

Yield = (รายได้ประจำปี / มูลค่าการลงทุนเบื้องต้น) × 100%

สูตรนี้ใช้ได้กับสินทรัพย์ส่วนใหญ่ แต่จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยขึ้นอยู่กับประเภทของการลงทุน

วิธีการคำนวณ Yield ตามประเภทสินทรัพย์

สำหรับตราสารหนี้และ bond yield:

หากนักลงทุนซื้อพันธบัตรมูลค่า 1,000 บาท โดยได้รับดอกเบี้ยปีละ 50 บาท การคำนวณจะเป็น:

Yield = (50 / 1,000) × 100% = 5% ต่อปี

สำหรับ bond yield โดยเฉพาะ สิ่งที่ต้องคำนึงคือนอกจากดอกเบี้ยแล้ว ยังมีผลกำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายตัวพันธบัตรด้วย

สำหรับหุ้นและเงินปันผล:

บริษัท A จ่ายเงินปันผลปีละ 10 บาทต่อหุ้น ขณะที่ราคาตลาดของหุ้นอยู่ที่ 100 บาท:

Dividend Yield = (10 / 100) × 100% = 10%

สำหรับกองทุนรวม:

หากกองทุนรวมสร้างรายได้รวม 100 บาท จากมูลค่าสุทธิ 1,000 บาท:

Mutual Funds Yield = (100 / 1,000) × 100% = 10%

ปัจจัยใดที่กำหนดขนาดของ Yield

ประเภทของสินทรัพย์ที่ลงทุน

สินทรัพย์ที่แตกต่างกันมี Yield ที่แตกต่างกัน การลงทุนในตราสารหนี้มักให้ Yield ที่ต่ำกว่าเนื่องจากมีความเสี่ยงน้อย ในขณะที่หุ้นเติบโตหรือหุ้นเทคโนโลยีอาจให้ผลตอบแทนสูงกว่า แต่มีความผันผวนมากกว่า

สภาวะของตลาดการเงิน

อัตราดอกเบี้ยที่ธนาคารกลางกำหนด สภาวะเศรษฐกิจ และความเสี่ยงทางการเมืองทั้งหมดนี้มีผลต่อ Yield ของสินทรัพย์ต่าง ๆ ตัวอย่างเช่น เมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคา bond yield มักจะลดลง แต่ Yield จะเพิ่มขึ้น

ระยะเวลาการลงทุน

ระยะเวลาที่ยาวนานมักให้ผลตอบแทนสูงขึ้น เนื่องจากสินทรัพย์จะมีเวลามากขึ้นในการสร้างผลตอบแทน และเงินต้นจะได้ผลประโยชน์จากการคิดดอกเบี้ยทบต้น

ระดับความเสี่ยง

หนึ่งในกฎทองของการลงทุนคือ ยิ่งเสี่ยงมาก ยิ่งต้องได้ Yield สูง นักลงทุนจึงคาดหวังผลตอบแทนที่มากขึ้นเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่พวกเขากำลังรับ

นโยบายการจัดการของบริษัท

การตัดสินใจของบริษัทเกี่ยวกับการจ่ายเงินปันผล การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา และการขยายธุรกิจ ทั้งหมดนี้ส่งผลต่อ Yield ที่บริษัทสามารถมอบให้แก่นักลงทุน

ประเภทต่าง ๆ ของ Yield ที่นักลงทุนควรรู้

Dividend Yield: ผลตอบแทนจากเงินปันผล

Dividend Yield คือเงินปันผลที่ได้รับจากการถือหุ้น เทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน บริษัทที่เสถียรและมีกำไรมักจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ทำให้เป็นแหล่งรายได้สำหรับนักลงทุนระยะยาว

หากบริษัท B จ่ายเงินปันผล 8 บาทต่อหุ้น และราคาหุ้นอยู่ที่ 80 บาท Dividend Yield จะเท่ากับ 10%

Earnings Yield: การประเมินผลกำไรขององค์กร

Earnings Yield แตกต่างจาก Dividend Yield ตรงที่มันวัดกำไรสุทธิทั้งหมดของบริษัท ไม่เพียงส่วนที่จ่ายเป็นเงินปันผล สูตรคือ:

Earnings Yield = (กำไรสุทธิต่อหุ้น / ราคาหุ้นปัจจุบัน) × 100%

ตัวชี้วัดนี้มีประโยชน์ในการเห็นว่าบริษัทสามารถสร้างกำไรได้เพียงใด โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจ่ายเงินปันผลหรือไม่

Bond Yield: ผลตอบแทนจากตราสารหนี้

Bond yield เป็นตัวชี้วัดทั่วไปสำหรับผู้ที่ลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรบริษัท การคำนวณนี้บ่งบอกว่าการลงทุนในตราสารหนี้จะให้ผลตอบแทนเท่าใด

ตัวอย่าง: หากซื้อพันธบัตร bond yield ที่ 5% ผู้ลงทุนจะได้รับดอกเบี้ยอย่างสม่ำเสมอตราบเท่าที่ถือพันธบัตรจนกว่าจะครบกำหนด

Stock Yield: อัตราผลตอบแทนจากหุ้น

Stock Yield รวมถึงทั้ง Dividend Yield และ Earnings Yield เข้าด้วยกัน บางครั้งอาจเรียกว่าอัตราผลตอบแทนโดยรวม

Mutual Funds Yield: ผลตอบแทนจากกองทุนรวม

กองทุนรวมจะสร้างรายได้จากสองแหล่ง: เงินปันผลจากหุ้นที่ถืออยู่ และดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ Yield ของกองทุนรวมนี้บ่งบอกว่านักลงทุนจะได้รับรายได้เท่าใด

ความแตกต่างระหว่าง Yield และ Return ที่นักลงทุนต้องเข้าใจ

แม้ว่า Yield และ Return มักถูกใช้สลับกัน แต่พวกเขามีความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน:

Yield เป็นผลตอบแทนที่คาดหวัง ซึ่งคำนวณจากรายได้ที่เกิดจากการลงทุน โดยไม่รวมการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ Yield นี้อาจคาดเดาได้ในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะสำหรับสินทรัพย์ที่มีรายได้คงที่ เช่น พันธบัตร

Return เป็นผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งรวมถึงรายได้จากเงินปันผลหรือดอกเบี้ย ตลอดจนกำไรหรือขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ Return จึงเป็นตัวเลขที่แท้จริงของผลตอบแทนที่ได้รับจริง

ตัวอย่างความแตกต่าง:

  • หากซื้อหุ้นที่ Dividend Yield อยู่ที่ 5% นั่นคือผลตอบแทนที่คาดหวัง
  • แต่หากราคาหุ้นเพิ่มขึ้น 20% ในปีเดียวกัน Return จริงจะสูงกว่า 5% มาก

การเลือก Yield ที่เหมาะสมกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ

หุ้น: สำหรับผู้ที่ยินดีรับความเสี่ยง

การลงทุนในหุ้นอาจให้ผลตอบแทนสูงในระยะยาว โดยเฉพาะหุ้นเทคโนโลยีหรือหุ้นเติบโต อย่างไรก็ตาม ความผันผวนในราคาอาจมีอย่างมากในระยะสั้น นักลงทุนที่มีอายุยังน้อยและมีทำนายการตลาดที่ดี อาจเลือกการลงทุนประเภทนี้

ตราสารหนี้และ Bond Yield: สำหรับผู้ที่ต้องการความเสถียร

Bond yield มักให้ผลตอบแทนที่คาดเดาได้ และมีความเสี่ยงต่ำกว่าหุ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ใกล้เกษียณอายุหรือต้องการเงินสดคงที่ เช่น พันธบัตรรัฐบาล

อสังหาริมทรัพย์: สำหรับผู้ที่มีเงินทุนมากพอ

อสังหาริมทรัพย์ให้ผลตอบแทนจากค่าเช่าหรือการขยายตัวของมูลค่า มีความเสี่ยงปานกลาง แต่ต้องมีเงินทุนสำหรับการซื้อครั้งแรก

กองทุนรวม: สำหรับผู้ที่ต้องการความหลากหลาย

กองทุนรวมให้ความหลากหลายของสินทรัพย์ โดยมีความเสี่ยงที่คุณควบคุมได้ โดยทั่วไปสามารถเลือกกองทุนตามระดับความเสี่ยงที่พึงพอใจ

สินทรัพย์ดิจิทัล: สำหรับผู้ที่มีความรู้เชิงลึก

สกุลเงินดิจิทัลอาจให้ผลตอบแทนสูงมากในช่วงเวลาหนึ่ง แต่มีความเสี่ยงสูงมากเนื่องจากความผันผวนของราคา ควรลงทุนเพียงจำนวนที่สามารถสูญเสียได้

สรุป: Yield เป็นเข็มทิศของการลงทุนอย่างชาญฉลาด

ความเข้าใจเกี่ยวกับ Yield คือขั้นตอนแรกในการเป็นนักลงทุนที่มีสติ ไม่ว่าคุณจะลงทุนในหุ้น bond yield อสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนรวม การรู้วิธีคำนวณและเปรียบเทียบ Yield จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น

สิ่งสำคัญคือต้องหลีกเลี่ยงการไล่ตามผลตอบแทนสูงสุดเท่านั้น แต่ต้องพิจารณาความเสี่ยงด้วย การปรับสมดุลระหว่าง Yield ที่สูงและความเสี่ยงที่ยอมรับได้ คือคุณสมบัติของนักลงทุนที่สำเร็จ

Ver original
Esta página pode conter conteúdos de terceiros, que são fornecidos apenas para fins informativos (sem representações/garantias) e não devem ser considerados como uma aprovação dos seus pontos de vista pela Gate, nem como aconselhamento financeiro ou profissional. Consulte a Declaração de exoneração de responsabilidade para obter mais informações.
  • Recompensa
  • Comentar
  • Republicar
  • Partilhar
Comentar
0/400
Nenhum comentário
  • Fixar

Negocie cripto em qualquer lugar e a qualquer hora
qrCode
Digitalizar para transferir a aplicação Gate
Novidades
Português (Portugal)
  • 简体中文
  • English
  • Tiếng Việt
  • 繁體中文
  • Español
  • Русский
  • Français (Afrique)
  • Português (Portugal)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • بالعربية
  • Українська
  • Português (Brasil)