Por que a sua carteira está a encolher: a inflação que precisa de entender

ราคาข้าว ไข่ น้ำมัน เพิ่มขึ้นไปทุกเดือน เงินเดือนเท่าเดิม แต่ของแพงขึ้นเรื่อยๆ นี่คือ ภาวะเงินเฟ้อ ที่กำลังกัดเม่ากระเป๋าของทั้งประเทศ

ภาวะเงินเฟ้อคืออะไร ทำไมมันถึงน่ากลัว

ถ้าเขียนให้ง่ายๆ ภาวะเงินเฟ้อ (Inflation) คือสภาวะที่ราคาสินค้าและบริการพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เงินในมือคุณ ซื้อของได้น้อยลงกว่าเดิม

ตัวอย่างจริง: 50 บาทเมื่อสิบปีก่อน ซื้อข้าวได้หลายจาน แต่วันนี้ซื้อได้แค่จานเดียว หรือซื้อไม่ได้เลย นั่นคือเงินเฟ้อกำลังกัดกินอำนาจการซื้อของคุณนั่นเอง

ตั้งแต่ปี 2564 ถึง 2567 คุณเห็นได้ชัดจากตารางราคาน้ำมัน หมูเนื้อแดง ไข่ไก่ ทั้งหมดปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ปี 2565 เป็นปีที่ร้ายแรงที่สุด เมื่อสงครามรัสเซีย-ยูเครนก่อให้เกิดการขาดแคลนสินค้าระหว่างประเทศ

ใครได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ ใครเสีย

กลุ่มที่ได้เปรียบ:

  • พ่อค้า ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถขึ้นราคาสินค้าได้เท่าทุนเพิ่มขึ้น
  • เจ้าของธุรกิจ มีโอกาสเพิ่มกำไร
  • ผู้ถือหุ้นบริษัทต่างๆ ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อผลักดันกำไร
  • เจ้าหนี้แบบนิยม เพราะจ่ายหนี้ด้วยเงินที่มีมูลค่าน้อยลง

กลุ่มที่เสีย:

  • คนกินเงินเดือน แม้เงินเดือนเพิ่มขึ้นก็เพิ่มน้อยกว่าเงินเฟ้อ
  • ผู้เก็บเงินไว้ เงินหดค่าตัวเองอย่างเงียบ ๆ
  • เจ้าหนี้ ต้องรับเงินกลับมาที่มีมูลค่าน้อยกว่า

เงินเฟ้อเกิดจากสาเหตุอะไร

ทั่วไปแล้ว มี 3 สาเหตุหลัก:

1. Demand Pull Inflation (ความต้องการมากเกินอุปทาน) คนต้องการซื้อมากขึ้น แต่สินค้าในตลาดไม่พอ ผู้ขายจึงปรับราคาขึ้น นี่เรียกว่า “Revenge Spending” - คนตัดสินใจใช้จ่ายหลังมาจากช่วงเศรษฐกิจถดถอย

2. Cost Push Inflation (ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น) ราคาน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เหล็ก ทองแดง สูงขึ้นในตลาดโลก ผู้ผลิตจึงต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตาม ปัญหาข้อจำกัดด้านลอจิสติกส์ (Supply Chain Disruption) ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นมากขึ้น

3. Printing Money Inflation (รัฐบาลพิมพ์เงินเพิ่ม) เมื่อรัฐบาลปล่อยเงินออกมามากเกินไป ปริมาณเงินในระบบเพิ่มขึ้น ทำให้เงินแต่ละบาทมีค่าน้อยลง

ตรงนี้สำคัญ: ในสถานการณ์ปัจจุบัน เงินเฟ้อที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกมาจากสาเหตุหลายประการรวมกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจัยหลักคือการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังโควิด ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ (สงคราม) และปัญหาการขาดแคลนสินค้าระหว่างประเทศ

ประวัติเงินเฟ้อของไทย เรียนรู้จากอดีต

ไทยเคยเจอเงินเฟ้อหนักกว่านี้เยอะ:

  • ปี 2517: เงินเฟ้อทะลุ 24.3% เพราะสงครามตะวันออกกลาง ราคาน้ำมันพุ่ง
  • ปี 2523: ติดที่ 15% จากสงครามอิรัก-อิหร่าน
  • ปี 2541: หลัง “วิกฤตโอนศักนัก” ตัวเงินบาทอ่อนค่า อัตราเงินเฟ้อพุ่ง 7.89%
  • ปี 2551: ไปถึง 5.51%
  • ปี 2565: พุ่งถึง 7.10% จากสงครามรัสเซีย-ยูเครน
  • ปี 2567 (มกราคม): ลดลงเหลือ 1.11% (ปีต่อปี)

ข้อมูล IMF (มกราคม 2567) คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะเติบโต 3.1% ในปี 2567 และ 3.2% ในปี 2568 ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต เพราะนโยบายการเงินที่เข้มงวด

เงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันยังไง

ค่าครองชีพสูงขึ้น เงินที่มีอยู่ซื้อของได้น้อยลง ครอบครัวต้องตัดสินใจระหว่างซื้อของจำเป็นหรือจ่ายค่าบิล

ยอดขายธุรกิจลดลง เมื่อสินค้าแพง ลูกค้าจำหน่ายซื้อ บางธุรกิจต้องปลดพนักงาน

บริษัทจำกัดการขยายตัว ต้นทุนเพิ่ม กำไรไม่ขยาย การลงทุนใหม่ชะลอ อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น

ภาวะ Stagflation (กลืนไม่เข้าคายไม่ออก) คือสถานการณ์ที่เศรษฐกิจไม่เติบโต แต่ราคายังเพิ่มขึ้น นี่คือสถานการณ์ที่ไม่มีใครอยาก - ไม่มีงาน แต่ของแพง

ตารางราคาสินค้าจำเป็น: 4 ปีเปลี่ยนแปลง

รายการ 2564 2565 2566 2567
หมูเนื้อแดง 137.5 บาท/กก. 205 บาท/กก. 125 บาท/กก. 133.31 บาท/กก.
อกไก่ 67.5 บาท/กก. 105 บาท/กก. 80 บาท/กก. 80 บาท/กก.
ไข่ไก่ 4.45 บาท/ฟอง 5 บาท/ฟอง 3.83-4 บาท/ฟอง 3.9 บาท/ฟอง
น้ำมันดีเซล 28.29 บาท/ลิตร 34.94 บาท/ลิตร 33.44 บาท/ลิตร 40.24 บาท/ลิตร
แก๊สโซฮอล์ 28.75 บาท/ลิตร 37.15 บาท/ลิตร 35.08 บาท/ลิตร 39.15 บาท/ลิตร

ที่สำคัญที่สุด: ไข่, ไก่, ผัก ลดลงจาก 2565 แต่ยังสูงกว่าสมัย 2564

เงินเฟ้อลดลงมากแล้ว แต่เงินฝืด? ต่างกันไหน

เงินฝืด (Deflation) คือตรงกันข้าม - ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง

เงินเฟ้อ เงินฝืด
ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าลดลง
เงินมีค่าน้อยลง เงินมีค่ามากขึ้น
คนอยากใช้จ่าย คนอยากเก็บเงิน (ลดลง)
ผู้ประกอบการมีกำไรขาขึ้น ผู้ประกอบการขาดทุน
เศรษฐกิจเติบโต เศรษฐกิจชะงัก

เงินฝืดเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงกว่าเงินเฟ้อ เพราะมันหยุดเศรษฐกิจ

วิธีวัดเงินเฟ้อ: ดัชนี CPI

ทุกเดือน กระทรวงพาณิชย์ไทยรวบรวมราคาสินค้า 430 รายการ แล้วคำนวณเป็น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

สูตรง่ายๆ:

  • CPI สูงขึ้นจากเดือนที่แล้ว → เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
  • CPI ลดลง → เงินเฟ้อลดลง

ข้อมูลล่าสุด (มกราคม 2567):

  • CPI = 110.3 (ปีฐาน 2562 = 100)
  • เพิ่มขึ้น 0.3% เทียบกับสิ้นปีที่แล้ว
  • ลดลง 1.11% ปีต่อปี (เทียบ มกราคม 2566)
  • นี่คือเดือนที่ 4 ติดต่อที่ลดลง - ต่ำสุดใน 35 เดือน!

สาเหตุที่ลดลง:

  • ราคาพลังงาน ลดลงจากมาตรการอุดหนุนของรัฐ
  • ผักสดและเนื้อสัตว์ ลดลงเพราะพืชผลเข้าสู่ตลาดมากขึ้น

บริษัท ปตท. ทำกำไรมหาศาล ขณะเงินเฟ้ออยู่

ตัวอย่างชัดเจนว่าใครได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ: ปี 2565 ครึ่งแรกเมื่อราคาน้ำมันพุ่งสูง:

  • รายได้รวม: 1,685,419 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ: 64,419 ล้านบาท (เติบโต 12.7% ปีต่อปี)
  • ปตท. เองทำ 24% กำไร ส่วนที่เหลือจากบริษัทในเครือ

นี่คือกำไรมหาศาล จากการขึ้นราคาน้ำมัน ขณะตัวบริษัทไม่ได้ทำอะไรพิเศษเพิ่มขึ้น

ข้อดีและข้อเสียของเงินเฟ้อ

ข้อดี: ✅ ธุรกิจขยาย เพราะขึ้นราคาสินค้าได้ → จ้างงานเพิ่ม → หมุนเวียนเงินเพิ่ม ✅ ลดอัตราการว่างงาน เพราะตลาดต้องการลูกจ้างมากขึ้น ✅ ลูกหนี้ได้ประโยชน์ (จ่ายหนี้ด้วยเงินที่อ่อนค่า)

ข้อเสีย: ❌ ถ้าเงินเฟ้อพุ่งเร็วเกินไป ลูกค้าจะเบรก ยอดขายลด ธุรกิจปลดพนักงาน ❌ Hyper Inflation (เงินเฟ้อระบาด): ของแพงไม่ยั้ง มูลค่าเงินรวดเร็ว ❌ อำนาจซื้อลดลง - เงินในกระเป๋าหดค่าตัวเอง ❌ ระบบกิจการไม่มั่นคง - มนุษย์มักเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยง

เมื่อเงินเฟ้อมา: วิธีปรับตัวและลงทุน

1. วางแผนลงทุน อย่าให้ฝากเงินที่ธนาคาร

ช่วงเงินเฟ้อ ดอกเบี้ยเงินฝากต่ำมาก แม้เพิ่มขึ้นก็ไม่ทันอัตราเงินเฟ้อ ลงทุนหุ้น กองทุนรวม อสังหาริมทรัพย์เพื่อให้ผลตอบแทนสูง

2. หลีกเลี่ยงหนี้ที่ไม่ให้ผลตอบแทน

ไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น ไม่กู้ยืมสำหรับสินค้าบริโภคหรือต่างรับ

3. ลงทุนในสินทรัพย์มั่นคง

ทองคำ - ราคาเคลื่อนไหวไปตามเงินเฟ้อ เมื่อเงินเฟ้อสูง ทองคำก็สูงตามไปด้วย เป็นสินทรัพย์ที่ “ทนเงินเฟ้อ”

4. ติดตามข่าวสาร

ตัดสินใจลงทุน/เก็บเงิน ขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อ ต้องติดตามตัวเลขทุกเดือน

5. ฝากเงิน ดอกเบี้ยสูง

ถ้าอยากปลอดภัย เลือกบัญชีประจำแบบดอกเบี้ยสูง แต่ต้องอดทนรอครบกำหนด

หุ้นไหนที่ได้ประโยชน์จากเงินเฟ้อ

หุ้นกลุ่ม ทำไมได้ประโยชน์
ธนาคาร ดอกเบี้ยขาขึ้น → กำไรจากส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่ม → ผลตอบแทนสูง
ประกัน ลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ผลตอบแทนขาขึ้นตามเงินเฟ้อ
อาหาร ราคาผลิตภัณฑ์อาหารขาขึ้น → ยอดขายเพิ่ม → กำไรเพิ่ม
พลังงาน ราคาน้ำมัน ก๊าซ ขึ้น → กำไรพุ่ง (ที่สังเกตได้จาก ปตท.)

กลยุทธ์ลงทุนขั้นสูง: เทรด CFD บนทองคำ

จากประสบการณ์เจ้าของบทความ วิธีที่นิยมสำหรับเก็งกำไรจากทองคำช่วงเงินเฟ้อคือ เทรด CFD (Contract For Difference)

ข้อดี:

  • เก็งกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง
  • ไม่ต้องซื้อทองคำจริง เพียงแค่หนี้สัญญา
  • ระดับเล่นต่ำ เหมาะสำหรับมือใหม่

สรุป: ภาวะเงินเฟ้อคืออะไร เราจะทำอย่างไร

ความจริง:

  • ภาวะเงินเฟ้อ เกิดจากราคาสินค้า-บริการพุ่งสูง ทำให้เงินของคุณหดค่า
  • มันเกิดจากความต้องการมากเกินอุปทาน + ต้นทุนผลิตสูง + นโยบายการเงิน
  • ถ้าเงินเฟ้อพอดี (2-3% ต่อปี) มันดีต่อเศรษฐกิจ
  • ถ้าเงินเฟ้อมากจนเกิน (Hyper Inflation) มันหายนะ

คุณควรทำ:

  1. อย่าเก็บเงินสด - มูลค่าหดลง
  2. ลงทุนต่อเนื่อง - หุ้น, อสังหาริมทรัพย์, ทองคำ
  3. เลือกหุ้นที่ได้ประโยชน์ - ธนาคาร, ประกัน, พลังงาน
  4. ติดตามข่าวตัวเลข CPI - ตัดสินใจลงทุนตามสถานการณ์
  5. ป้องกันตัว - หลีกเลี่ยงหนี้ไม่ให้ผลตอบแทน

นักลงทุนฉลาดไม่กลัวเงินเฟ้อ พวกเขา ใช้เงินเฟ้อเป็นเครื่องมือสร้างกำไร แทน

Ver original
Esta página pode conter conteúdos de terceiros, que são fornecidos apenas para fins informativos (sem representações/garantias) e não devem ser considerados como uma aprovação dos seus pontos de vista pela Gate, nem como aconselhamento financeiro ou profissional. Consulte a Declaração de exoneração de responsabilidade para obter mais informações.
  • Recompensa
  • Comentar
  • Republicar
  • Partilhar
Comentar
0/400
Nenhum comentário
  • Fixar

Negocie cripto em qualquer lugar e a qualquer hora
qrCode
Digitalizar para transferir a aplicação Gate
Novidades
Português (Portugal)
  • بالعربية
  • Português (Brasil)
  • 简体中文
  • English
  • Español
  • Français (Afrique)
  • Bahasa Indonesia
  • 日本語
  • Português (Portugal)
  • Русский
  • 繁體中文
  • Українська
  • Tiếng Việt