IPO, которые вам нужно знать: все, что нужно понять о привлечении капитала через фондовый рынок

IPO คืออะไร? ทำไมบริษัทถึงต้อง IPO?

IPO (Initial Public Offering) หรือการเสนอขายหลักทรัพย์ครั้งแรกต่อสาธารณชน คือกลไกที่บริษัทใช้เพื่อเปลี่ยนจากสถานะเป็นบริษัทเอกชนไปเป็นสาธารณะ โดยหลักการสำคัญอยู่ที่การระดมเงินทุนจำนวนมหาศาลเพื่อขยายธุรกิจและพัฒนาบริษัท

เมื่อบริษัทตัดสินใจออก IPO ก็หมายความว่ามีจุดประสงค์หลายประการ:

ด้านการเงิน: ระดมทุนสดใจากสาธารณชนแทนการกู้ยืมจากธนาคารเท่านั้น

ด้านภาพลักษณ์: สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนรู้จักบริษัทและแบรนด์มากขึ้น

ด้านสิทธิ: เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปกลายเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของบริษัท โดยผ่านการซื้อหุ้นใน IPO นั้นๆ

บริษัทที่ต้องการออก IPO ต้องมีคุณสมบัติอย่างไร?

ทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้กำหนดเกณฑ์ที่เข้มงวดสำหรับบริษัทที่ต้องการจดทะเบียน ดังนี้:

สถานะกฎหมาย:

  • ต้องเป็นบริษัทมหาชนจำกัด หรือนิติบุคคลที่จัดตั้งโดยกฎหมายไทยโดยเฉพาะ

ความมั่นคงทางการเงิน:

  • ส่วนของผู้ถือหุ้นต้องไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาทก่อน IPO
  • ต้องมีประวัติการดำเนินงานมากกว่า 3 ปี ภายใต้การจัดการของคณะบริหารเดิม

ประสิทธิภาพการดำเนินงาน:

  • เกณฑ์กำไรสุทธิ: ในช่วง 2-3 ปีล่าสุด ต้องมีกำไรสุทธิรวมมากกว่า 50 ล้านบาท และปีล่าสุดต้องมีอย่างน้อย 30 ล้านบาท
  • เกณฑ์ Market Cap: มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดต้องเกิน 7,500 ล้านบาท ก่อนจดทะเบียน

การกำกับดูแลกิจการ:

  • มีคณะกรรมการอิสระและคณะกรรมการตรวจสอบ
  • ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์
  • งบการเงินต้องผ่านการตรวจสอบจากผู้สอบบัญชีที่ได้รับการยอมรับจาก ก.ล.ต.

ผู้ที่มีบทบาทในการทำให้ IPO สำเร็จ

การทำให้ IPO ประสบความสำเร็จต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายฝ่าย แต่ละฝ่ายมีบทบาทและความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน:

ผู้เกี่ยวข้อง บทบาท
สำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติและกำกับดูแลการเสนอขาย IPO
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ศูนย์กลางในการจัดการซื้อขายหลักทรัพย์
ที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor) ให้คำแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นจนเสร็จสิ้น
ผู้ประเมินมูลค่า (Valuer) ประเมินมูลค่าทรัพย์สินและบริษัท
ผู้สอบบัญชี (Auditor) ตรวจสอบงบการเงินให้ถูกต้องตามมาตรฐาน
ที่ปรึกษากฎหมาย (Lawyer) ให้คำปรึกษากฎหมายและจัดเตรียมเอกสาร
ผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ (Underwriter) ขายหุ้น IPO ให้แก่ประชาชน
ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (TSD) จัดทำและดูแลทะเบียนผู้ถือหุ้น

ข้อดีและข้อเสียของการออก IPO

ข้อดี

สำหรับผู้ลงทุน:

  • มีความมั่นใจสูงเพราะบริษัทอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. และ SET อย่างเข้มงวด
  • ได้รับส่วนแบ่งกำไรอย่างเป็นธรรมจากการดำเนินงานของบริษัท
  • เมื่อตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น IPO ที่เพิ่งเข้าตลาดมักให้ผลตอบแทนสูงในระยะสั้น
  • เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่ต้องการสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
  • ไม่ต้องใช้เทคนิคเฉพาะ แค่ศึกษาโปรไฟล์บริษัทอย่างดีก็พอ

สำหรับบริษัท:

  • ระดมทุนจำนวนมหาศาลโดยไม่ต้องกู้ยืมแบบดั้งเดิม
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของบริษัท
  • เปิดประตูให้พนักงานมีความมั่นใจมากขึ้นเพราะบริษัทโปร่งใส

ข้อเสีย

สำหรับบริษัท:

  • ต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินทั้งหมด รวมถึงงบกำไรขาดทุนและภาษี ซึ่งคู่แข่งยังนำไปใช้ประโยชน์
  • ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายจำนวนมากสำหรับผู้เชี่ยวชาญต่างๆ เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย บัญชี และธนาคารลงทุน
  • เจ้าของบริษัตจะมีสัดส่วนการถือหุ้นลดลง เพราะหุ้นใหม่ถูกเสนออย่างกว้างขวาง
  • เจ้าของบริษัทอาจสูญเสียอำนาจในการควบคุมบริษัท เมื่อกลุ่มบริหารที่แตกต่างกันมีอิทธิพล

สำหรับผู้ลงทุน:

  • ราคาหุ้น IPO ค่อนข้างผันผวนในช่วงเริ่มต้น เสี่ยงต่อการขาดทุน
  • ไม่สามารถขายหุ้นได้ในทันทีเพราะอาจมี Lock-up Period
  • ต้องรู้ว่าบริษัทไหนแน่นอน เพราะตัดสินใจผิดอาจเสียเงินจำนวนมาก

กระบวนการเตรียมตัวของบริษัทสำหรับ IPO

ก่อนที่หุ้น IPO จะเข้าไปสู่มือผู้ลงทุน บริษัทต้องผ่านขั้นตอนการเตรียมการที่ยุ่งยากและต้องใช้เวลา ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี ขึ้นอยู่กับความพร้อมของบริษัท:

  1. ศึกษากฎระเบียบและติดต่อที่ปรึกษา - บริษัทต้องศึกษากฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง แล้วจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน
  2. จัดเตรียมเอกสาร - เตรียมงบการเงิน โครงการธุรกิจ และเอกสารต่างๆ ตามที่ ก.ล.ต. กำหนด
  3. แปลงสภาบริษัท - เปลี่ยนจากบริษัทจำกัด เป็นบริษัทมหาชนจำกัด
  4. กำหนดราคา IPO - ประเมินมูลค่าบริษัท และกำหนดราคาที่เหมาะสม
  5. PR และสื่อสาร - สร้างการรับรู้เกี่ยวกับบริษัทให้แก่นักลงทุน
  6. ตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพและแต่งตั้งนายทะเบียน
  7. ยื่น Filing ต่อ ก.ล.ต. - ยื่นคำขอขออนุญาติ

วิธีการจองหุ้น IPO

นักลงทุนสามารถจองหุ้น IPO ได้ 2 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีมีลักษณะและความเสี่ยงที่ต่างกัน:

วิธีที่ 1: ซื้อหุ้น IPO ก่อนเข้าตลาด (Primary Market)

นี่คือช่องทางที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด เพราะ:

  • บริษัทและ SET จะประกาศเปิดรับจองหุ้น ผ่านเว็บไซต์ SET หรือโบรกเกอร์ต่างๆ
  • ระยะเวลาจองปกติ 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับปริมาณความสนใจ
  • ราคา IPO มักตั้งค่อนข้างต่ำ - เพื่อกระตุ้นความสนใจของผู้ลงทุน
  • เมื่อหุ้นเข้าตลาด ราคามักพุ่งขึ้นหลายเท่า ทำให้ผู้ลงทุนที่จองตั้งแต่ต้นได้กำไรค่อนข้างสูง
  • อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่อยากจองจะได้ เพราะอาจจองเกินกำหนด

วิธีที่ 2: ซื้อหุ้น IPO หลังเข้าตลาด (Secondary Market)

  • เหมาะสำหรับผู้ที่พลาดโอกาสจองในครั้งแรก
  • ซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์ เหมือนการซื้อขายหุ้นธรรมดา
  • ราคาอาจสูงกว่า IPO price หลายเท่า เพราะอุปสงค์สูง
  • ความผันผวนของราคาสูงในช่วงแรก ดังนั้นต้องระวัง

มูลค่า IPO ตั้งราคาจากเกณฑ์ใด?

การตั้งราคา IPO ไม่ใช่เรื่องสุ่มๆ แต่มีกระบวนการประเมินมูลค่าที่รัดกุม ซึ่งดำเนินการโดยที่ปรึกษาทางการเงินและ Investment Banking:

  • Book Building - ที่ปรึกษาจะสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบัน เพื่อประมาณช่วงราคา
  • Valuation - ประเมินมูลค่าบริษัทโดยใช้วิธีต่างๆ เช่น DCF, P/E multiple, comparable companies
  • ปัจจัยทางการเงิน - กำไร ส่วนของผู้ถือหุ้น ประวัติการเติบโต ฯลฯ
  • อุปสงค์ตลาด - ราคาบริษัทที่คล้ายกันในตลาด
  • กลยุทธ์ระดมทุน - บริษัทมักต้องการตั้งราคาต่ำเพื่อดึงดูดผู้ลงทุนให้เข้ามามากพอ

ราคา IPO ส่วนใหญ่จะตั้งต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงของบริษัท เพื่อเป็นการขอบคุณแก่ผู้ลงทุนที่เข้ามาช่วยระดมทุน

ดูข้อมูล IPO ได้ที่ไหน?

หากคุณต้องการติดตามข้อมูล IPO และสิ่งที่มาใกล้จะเข้าตลาดหลักทรัพย์ต่อไป สามารถศึกษาได้จาก:

เว็บไซต์ SET (www.set.or.th)

  • หมวด “Upcoming IPO” - ดูรายชื่อบริษัทที่อยู่ระหว่างจดทะเบียน
  • หมวด “Latest IPO” - เห็นบริษัทที่เพิ่งเข้าตลาด
  • ดาวนโหลด Prospectus (หนังสือชี้ชวน) เพื่อศึกษารายละเอียดเจาะจง

เว็บไซต์บริษัทที่ต้องการออก IPO

  • มีเอกสารสำคัญ เช่น จุดประสงค์ระดมทุน ปริมาณการเสนอขาย ระยะเวลาจอง ฯลฯ

บริษัทหลักทรัพย์ (Brokerage Firm)

  • ติดตามข้อมูลจาก mobile app หรือเว็บไซต์ของโบรกเกอร์
  • ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อมี IPO ใหม่

IPO ส่งผลอย่างไรต่อเศรษฐกิจของประเทศ?

การออก IPO ไม่ใช่เพียงเรื่องของบริษัทและนักลงทุนเท่านั้น แต่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ:

ผลกระทบเชิงบวก:

  • บริษัทที่ได้เงินทุนสามารถขยายธุรกิจ ซื้อเครื่องจักร และสร้างงาน
  • ตลาดหลักทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพช่วยให้ทุนไหลเวียนไปยังธุรกิจที่มีศักยภาพ
  • ผู้ลงทุนที่ได้ผลตอบแทนดีจะนำเงินไปใช้จ่ายอื่นๆ กระตุ้นเศรษฐกิจ

ผลกระทบเชิงลบ:

  • การหลังลงทุนที่ไม่เหมาะสมอาจสร้างฟองสบู่ (Bubble) ในตลาดหุ้น
  • บางบริษัท IPO ไม่อยู่นานนัก หากธุรกิจไม่ดำเนินตามที่คาดการณ์
  • อาจสร้างความไม่เสมอภาคทางหารหุ้นผลประโยชน์ หากเจ้าของบริษัทเดิมถูกโลบไล่ออก

ตัวอย่างการ IPO: ขั้นตอนจากเดือน 0 ถึง 100

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น ลองดูตัวอย่างกรณีศึกษา:

บริษัท ABC เป็นบริษัทจำกัดเอกชนที่ผลิตน้ำชา ผู้ก่อตั้งเป็นเจ้าของ 100% โดยมี:

  • หุ้น 1,800,000 หุ้น @ 2 บาทต่อหุ้น (Par Value)
  • เงินลงทุนทั้งหมด 3,600,000 บาท

เมื่อ ABC ตัดสินใจออก IPO บริษัทขออนุญาติเสนอขายหุ้นใหม่ 800,000 หุ้น @ 15 บาท:

  • ได้เงินทุน 12,000,000 บาท (800,000 × 15)
  • หุ้นทั้งหมดกลายเป็น 2,600,000 หุ้น
  • ผู้ก่อตั้งตอนนี้ถือหุ้น 69.23% มูลค่า 27,000,000 บาท
  • ผู้ลงทุน IPO ใหม่ถือ 30.77% มูลค่า 12,000,000 บาท

หลังจากนั้น:

  • หุ้นของ ABC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
  • ทุกคนสามารถซื้อขายหุ้น ABC ได้ในตลาดรอง (Secondary Market)
  • บริษัทไม่ได้รับเงินจากการซื้อขายในตลาดรองแต่อย่างใด - เป็นเพียงการเปลี่ยนมือระหว่างผู้ลงทุน

สำคัญสุด: การศึกษาเบื้องต้นก่อนจองหุ้น IPO

มากมายนักลงทุนรู้สึกหวาดระแวงต่อ IPO เพราะคิดว่าตนเองไม่เก่งเรื่องเทคนิคการลงทุน ความจริงแล้ว การลงทุนหุ้น IPO เปิดให้ทุกคน ไม่มีข้อกำหนดเฉพาะที่ต้องมีความรู้มากมาย

สิ่งที่ต้องทำก่อนจองหุ้น IPO:

  • ศึกษาธุรกิจของบริษัท - ธุรกิจคืออะไร ทำกำไรอย่างไร
  • ตรวจสอบบริหารจัดการ - ทีมบริหารมีประสบการณ์หรือไม่
  • วิเคราะห์ตัวเลข - กำไร ส่วนของผู้ถือหุ้น อัตราการเติบโต
  • เปรียบเทียบราคา - ราคา IPO สมควรหรือไม่เทียบกับบริษัทที่คล้ายกัน
  • เข้าใจความเสี่ยง - ธุรกิจมีความเสี่ยงจากไหนบ้าง
  • ตั้งเป้าหมายการลงทุน - ซื้อเพื่อกำไรระยะสั้นหรือระยะยาว

สรุปสั้นๆ: ยิ่งศึกษา ยิ่งมีโอกาสสูงจะประสบความสำเร็จ ไม่มีใครเทพหรือตัวอักษร ทุกคนแค่เลือกจะศึกษาหรือเดินสุ่มในตลาด


สิ่งที่ควรจำ: หุ้น IPO มีศักยภาพให้ผลตอบแทนสูง แต่ก็มีความเสี่ยงเท่าๆ กัน ความสำเร็จของการลงทุนขึ้นอยู่กับการวิจัยและการตัดสินใจที่รอบคอบ

Посмотреть Оригинал
На этой странице может содержаться сторонний контент, который предоставляется исключительно в информационных целях (не в качестве заявлений/гарантий) и не должен рассматриваться как поддержка взглядов компании Gate или как финансовый или профессиональный совет. Подробности смотрите в разделе «Отказ от ответственности» .
  • Награда
  • комментарий
  • Репост
  • Поделиться
комментарий
0/400
Нет комментариев
  • Закрепить