Відкрийте світ думок 10 мільярдерів, які займають перші місця у світовому рейтингу: хто є босом з мільйонними доларами у 2024 році

ความรวยของมนุษย์นั้นไม่ได้เกิดจากการออมเงินเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการสร้างมูลค่า นวัตกรรม และการลงทุนอย่างชาญฉลาด หากคุณสงสัยว่าใครกำลังครองตำแหน่งผู้มีทรัพย์สินสูงสุดในโลกและเขาสร้างสถานะการเงินดังกล่าวมาได้อย่างไร มาทำความเข้าใจกลุ่มมหาเศรษฐีชั้นนำของโลกในปัจจุบันกัน

ผู้นำกระแสความสำเร็จ: เจาะลึก 10 อันดับคนที่รวยที่สุดในโลก

ตามข้อมูลจาก Bloomberg Billionaires Index ซึ่งอัปเดตข้อมูลการเปลี่ยนแปลงทรัพย์สินของมหาเศรษฐีชั้นนำตลอดเวลา ปรากฎว่าสังคมมหาเศรษฐีโลกนั้นปกครองด้วยนักธุรกิจผู้บุกเบิกในภาคเทคโนโลยี ค้าปลีก และการเงินเป็นส่วนใหญ่

1. อีลอน มัสก์ - ผู้สร้างแรงบันดาลใจแห่งอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

ตั้งแต่อายุน้อย อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ได้แสดงความถนัดพิเศษในด้านการคำนวณ และเมื่ออายุได้ 12 ปี เขาก็สามารถพัฒนาและขายเกมชื่อ Blastar ได้แล้ว เส้นทางการศึกษาของเขาคำมตั้งแต่ Queen’s University ผ่าน University of Pennsylvania (ศึกษาเศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์) ไปจนถึง Stanford University ก่อนที่จะลาออกเพื่อติดตามโอกาสทางธุรกิจ

ทั้งนี้ อีลอน มัสก์ไม่เพียงแค่ผู้ก่อตั้งเท่านั้น แต่ยังเป็นนักเป็นผู้บริหารสูงสุดของ Tesla ที่เปิดตัว Roadster, Model S และ Model 3 ซึ่งปฏิวัติตลาดยานยนต์พลังงานสะอาด นอกจากนี้ยังมีการก่อตั้ง SpaceX ในปี 2002 เพื่อลดต้นทุนการขนส่งอวกาศ และพอร์ตโฟลิโออื่น ๆ เช่น The Boring Company, Neuralink และ xAI

ณ ปัจจุบัน มูลค่าสุทธิรวมของอีลอน มัสก์อยู่ที่ 342 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่วนใหญ่มาจากการถือหุ้น Tesla ประมาณ 12.8% (มูลค่า 51 พันล้านดอลลาร์) และ 79% ของ X (เดิมชื่อ Twitter) นอกจากนี้ SpaceX ยังมีมูลค่าสินทรัพย์ถึง 82,200 ล้านดอลลาร์

2. มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก - พระเจ้าแห่งสื่อสังคม

โดยการก่อตั้ง Facebook ขณะเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย Harvard ในปี 2004 มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ได้ปฏิวัติโลกของการเชื่อมโยงสังคม ใน IPO ครั้งใหญ่ในเดือนพฤษภาคม 2012 Facebook ระดมทุนได้ 16,000 ล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นหนึ่งในการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

ปัจจุบัน มาร์ก ซักเคอร์เบิร์กถือหุ้น Meta Platforms ประมาณ 13% ซึ่งมีมูลค่า 164 พันล้านดอลลาร์ โดยมูลค่าสุทธิรวมอยู่ที่ 215 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีเงินสดเพิ่มเติมประมาณ 5.1 พันล้านดอลลาร์

3. เจฟฟ์ เบโซส - ปลดปล่อยพลังของการค้าอิเล็กทรอนิกส์

ผู้ก่อตั้ง Amazon เจฟฟ์ เบโซส (Jeff Bezos) ได้สนใจด้านเทคโนโลยีและการคำนวณมาตั้งแต่วัยเด็ก เขาศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมไฟฟ้าที่มหาวิทยาลัย Princeton ก่อนเข้าทำงานที่วอลล์สตรีท

ในปี 1995 เจฟฟ์ เบโซส ได้ก่อตั้ง Amazon เพื่อจำหน่ายหนังสือทางออนไลน์ จากนั้นการขยายตัวต่อเนื่องจนเป็นแพลตฟอร์มการค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ครอบคลุมทุกประเภทสินค้า ในปี 2017 Amazon ได้รับการยอมรับเมื่อซื้อ Whole Foods นอกจากนี้ เบโซส ยังเป็นเจ้าของ The Washington Post และเป็นผู้ก่อตั้ง Blue Origin บริษัทสำรวจอวกาศ

ณ ปัจจุบัน เจฟฟ์ เบโซส มีมูลค่าสุทธิ 192 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือหุ้น Amazon ประมาณ 9-9.7% (มูลค่า 186-190 พันล้านดอลลาร์) พร้อมสินทรัพย์อื่นรวมถึงเงินสด 19.9 พันล้านดอลลาร์

4. แลร์รี เอลลิสัน - จักรพรรดิซอฟต์แวร์

แลร์รี เอลลิสัน (Larry Ellison) ผู้ร่วมก่อตั้ง Oracle Corporation ในปี 1977 ได้ปฏิวัติระบบการจัดการฐานข้อมูลสำหรับองค์กรทั่วโลก ภายใต้การบริหารของเขา Oracle ขยายผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องจากเป็นเครื่องมือฐานข้อมูล ไปสู่บริการคลาวด์และซอฟต์แวร์องค์กรรวม

ในปี 2021 Oracle ได้ซื้อ Cerner Corporation บริษัทซอฟต์แวร์ด้านการจัดการสุขภาพด้วยมูลค่า 28,300 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ แลร์รี เอลลิสัน ยังเป็นผู้ถือหุ้นของ Tesla และลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสินค้าฟุ่มเฟือยอื่น ๆ

มูลค่าสุทธิรวมของแลร์รี เอลลิสัน อยู่ที่ 178 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือหุ้น Oracle ประมาณ 42% ซึ่งเทียบเท่า 117,000 ล้านดอลลาร์

5. เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ - ผู้ประมุขแบรนด์หรู

เบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ (Bernard Arnault) ประธานและซีอีโอของ LVMH Moët Hennessy Louis Vuitton ได้เริ่มต้นจากธุรกิจก่อสร้างของครอบครัว จากนั้นได้นำเงิน 15 ล้านดอลลาร์มาซื้อ Christian Dior ในปี 1984 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของอาณาจักรแบรนด์หรูของเขา

กลยุทธ์ของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์คือการซื้อแบรนด์หรูชั้นนำและรวมเข้าเป็นกลุ่มเดียว ในปี 2021 LVMH ได้เข้าซื้อ Tiffany & Co บริษัทจิวเวลรี่อเมริกันด้วยมูลค่า 15,800 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเข้าซื้อกิจการแบรนด์หรูครั้งใหญ่ที่สุด

ปัจจุบัน มูลค่าสุทธิของเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์อยู่ที่ 154 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือหุ้น LVMH ประมาณ 48% ซึ่งมีมูลค่า 170,000 ล้านดอลลาร์

6. วอร์เรน บัฟเฟตต์ - ปรมาจารย์ด้านการลงทุน

วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) ที่รู้จักกันด้วยฉายา “นักพยากรณ์แห่งโอมาฮา” ได้แสดงให้เห็นความสามารถทางธุรกิจตั้งแต่อายุยังน้อย ในปี 1956 เขาก่อตั้ง Buffett Partnership Ltd. และได้เข้าควบคุม Berkshire Hathaway

ภายใต้การนำของวอร์เรน บัฟเฟตต์ Berkshire Hathaway ขยายตัวเข้าไปในอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างสื่อ ประกันภัย พลังงาน อาหารและเครื่องดื่ม หลักการลงทุนของเขาที่โด่งดังคือ “กฎข้อที่หนึ่ง: ห้ามขาดทุน กฎข้อที่สอง: ห้ามลืมกฎข้อที่หนึ่ง”

มูลค่าสุทธิของวอร์เรน บัฟเฟตต์อยู่ที่ 146 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือหุ้น Berkshire Hathaway ประมาณ 15% ซึ่งมีมูลค่า 137 พันล้านดอลลาร์

7. แลร์รี เพจ - สถาปตยกรรมเครื่องมือค้นหา

แลร์รี เพจ (Larry Page) เกิดในมิชิแกนในปี 1973 โดยมีพ่อแม่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ เขาศึกษาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ที่มหาวิทยาลัย Stanford ซึ่งที่นั่นเขาได้พบกับ เซอร์เกย์ บริน

ทั้งสองได้พัฒนาเครื่องมือค้นหาและก่อตั้ง Google ในปี 1998 เครื่องมือค้นหานี้พัฒนาต่อจนกลายเป็นแพลตฟอร์มโฆษณา คลาวด์คอมพิวติ้ง และฮาร์ดแวร์ ต่อมา Alphabet Inc. ได้ก่อตั้งเป็นบริษัทแม่ของ Google โดยแลร์รี เพจ ดำรงตำแหน่งซีอีโอ

มูลค่าสุทธิของแลร์รี เพจอยู่ที่ 144 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือหุ้น Alphabet ประมาณ 6% ซึ่งมีมูลค่า 134.3 พันล้านดอลลาร์

8. เซอร์เกย์ บริน - ร่วมผู้บุกเบิกโลกดิจิทัล

เซอร์เกย์ บริน (Sergey Brin) ผู้ร่วมก่อตั้ง Alphabet และมีส่วนร่วมในการพัฒนา Google นอกจากเครื่องมือค้นหาแล้ว Google ยังให้บริการ Gmail, Android และ YouTube

ตั้งแต่ Google เปิดตัวสู่สาธารณชนในปี 2004 เซอร์เกย์ บริน ได้ขายหุ้นมูลค่ามากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่ยังคงมาจากการลงทุนในบริษัทแม่ Alphabet

มูลค่าสุทธิของเซอร์เกย์ บริน อยู่ที่ 138 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือหุ้น Alphabet ประมาณ 6% ซึ่งมีมูลค่า 125.2 พันล้านดอลลาร์

9. อามันซิโอ ออร์เตกา - ศาสตราจารย์ด้านแฟชั่น

อามันซิโอ ออร์เตกา (Amancio Ortega) ผู้ร่วมก่อตั้ง Inditex บริษัทค้าปลีกแฟชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวบริษัตในปี 1975 ร่วมกับอดีตภรรยา Rosalia Mera (เสียชีวิตในปี 2013)

Inditex มีสำนักงานใหญ่ที่เมือง Arteixo ประเทศสเปน และดำเนินกิจการร้านค้ากว่า 5,000 แห่งทั่วโลกภายใต้แบรนด์ 8 ชื่อ รวมถึง Zara, Massimo Dutti, Bershka และ Pull & Bear

อามันซิโอ ออร์เตกา ถอนตัวจากการดำเนินงานประจำวัน แต่ยังเป็นผู้ถือหุ้นสำคัญ โดยแยกเงินปันผลทีได้รับกว่า 400 ล้านดอลลาร์ต่อปีเพื่อลงทุนในพอร์ตโฟลิโออสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่

มูลค่าสุทธิของอามันซิโอ ออร์เตกา อยู่ที่ 124 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือหุ้น Inditex ประมาณ 60% ซึ่งมีมูลค่า 72,000 ล้านดอลลาร์

10. สตีฟ บอลเมอร์ - มหาผลงานของ Microsoft

สตีฟ บอลเมอร์ (Steve Ballmer) อดีต CEO ของ Microsoft ได้เข้าทำงานกับบริษัทในปี 1980 หลังจากลาออกจาก MBA ของ Stanford ภายใต้การนำของเขาตั้งแต่ปี 2000 ถึง 2014 Microsoft ขยายผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องรวมถึงการพัฒนา Xbox และการซื้อ Skype

ในปี 2014 หลังจากเกษียณจาก Microsoft สตีฟ บอลเมอร์ ได้ซื้อ Los Angeles Clippers ของ NBA ด้วยเงิน 2 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2022 เขาและภรรยาบริจาคเงินประมาณ 425 ล้านดอลลาร์ให้แก่ University of Oregon

มูลค่าสุทธิของสตีฟ บอลเมอร์ อยู่ที่ 118 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยถือหุ้น Microsoft ประมาณ 4% ซึ่งมีมูลค่า 134 พันล้านดอลลาร์

ภาพรวมความเศรษฐีของโลก: ตารางแบบย่อ

บทสรุป: การสร้างสถานะการเงิน และสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้

เรื่องราวของมหาเศรษฐีเหล่านี้แสดงให้เห็นตัวประกอบหลัก ๆ ที่สร้างความสำเร็จทางการเงิน ได้แก่ นวัตกรรม ความพากเพียร วิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ และความเต็มใจที่จะเสี่ยง

หากจำแนกจากอุตสาหกรรม พบว่า เทคโนโลยีครอบครอง 60% ของตัวเลขชั้นนำ อย่าง Tesla, Meta, Amazon, Oracle, Alphabet และ Microsoft ขณะที่ แฟชั่นและค้าปลีก และ การเงิน ยังคงมีบทบาทสำคัญ

สำหรับใครที่พยายามสร้างความมั่งคั่ง ข้อสำคัญคือการเริ่มจากการพัฒนาทักษะ การศึกษาอย่างต่อเนื่อง และความอุตสาหะ หากคุณสนใจการเทรด หรือการลงทุน การเข้าใจตลาดและการจัดการความเสี่ยงอย่างชาญฉลาดจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้